การประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า การประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือที่นิยมเรียกกันโดยทั่วไปสั้น ๆ ว่า พ.ร.บ. ตามกฎหมายนี้บังคับให้ยานพาหนะทางบก (รถ) ที่ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนด้วยน้ำมัน ก๊าซ หรือ ไฟฟ้า ต้องมี พ.ร.บ. และเบี้ยประกันภัยเป็นราคาที่คงที่ตามชนิดของยานพาหนะแต่ละประเภทซึ่งบริษัทประกันวินาศภัยทุกแห่งต้องขายในราคาเดียวกัน การไม่มีพ.ร.บ.เท่ากับเป็นการทำผิดกฎหมาย โดยมีโทษดังนี้
1. เจ้าของรถไม่ทำประกันภัย พ.ร.บ. มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
2. ใครก็ตามนำรถไปใช้โดยไม่มี พ.ร.บ. มีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท
3. เจ้าของรถนำรถไปใช้โดยไม่มี พ.ร.บ. จะมีความผิดเป็น 2 กระทง มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
4. ต่อภาษีรถประจำปีไม่ได้ หากป้ายวงกลมหรือปัจจุบันที่ออกเป็นป้ายสี่เหลี่ยมหมดอายุ เมื่อตำรวจตรวจพบจะต้องเสียค่าปรับ 400-1,000 บาท และเมื่อไปต่อภาษีเกินกำหนดจะเสียค่าปรับร้อยละหนึ่งต่อเดือน หากปล่อยทิ้งไว้เกิน 3 ปีไม่ไปต่อภาษี ทะเบียนรถจะถูกระงับการใช้งานและมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
5. เมื่อเกิดอุบัติเหตุและรถที่เป็นฝ่ายผิดไม่มี พ.ร.บ. จะไม่ได้รับความคุ้มครองต้องเสียค่ารักษาพยาบาลให้กับตนเอง และให้กับคู่กรณีเองทั้งสิ้น ทั้งยังถูกกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถที่เป็นหน่วยงานของ คปภ. หรือ สำนักงานคณะกรรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย มาเรียกเก็บเงินอีกสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
การชดเชยจากกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พ.ร.บ.) โดยหลัก ๆ มีดังนี้
1. ในกรณีได้รับความเสียหายต่อร่างกาย หรืออนามัย แต่ไม่ถึงกับสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง และค่าเสียหายอ่างอื่นที่ผู้ประสบภัยสามารถเรียกร้องได้ ตามมูลละเมิด ตามความเสียหายที่แท้จริงแต่ไม่เกิน 80,000 บาท/คน
2. กรณีทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ได้รับค่าชดเชย 500,000 บาท/คน
3. กรณีสูญเสียมือสองข้างตั้งแต่ข้อมือ หรือแขนสองข้าง หรือเท้าสองข้างตั้งแต่ข้อเท้า หรือขาสองข้าง หรือสายตาสองข้าง (ตาบอด) ได้รับค่าชดเชย 500,0000 บาท/คน
4. กรณีสูญเสียมือหนึ่งข้างตั้งแต่ข้อมือ แขนหนึ่งข้าง เท้าหนึ่งข้างตั้งแต่ข้อเท้า ขาหนึ่งข้าง สายตาหนึ่งข้าง (ตาบอด) ตั้งแต่ 2 กรณีขึ้นไป ได้รับค่าชดเชย 500,000 บาท/คน
5. กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร ได้รับค่าชดเชย 300,000 บาท/คน
6. กรณีสูญเสียมือหนึ่งข้างตั้งแต่ข้อมือ หรือแขนหนึ่งข้าง หรือเท้าหนึ่งข้าง ตั้งแต่ข้อเท้า หรือขาหนึ่งข้าง หรือสายตาหนึ่งข้าง (ตาบอด) กรณีใดกรณีหนึ่ง ได้รับค่าชดเชย 250,000 บาท/คน
7. กรณีหูหนวก เป็นใบ้หรือเสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด สูญเสีย อวัยวะสืบพันธ์ุ หรือความสามารถสืบพันธุ์ จิตพิการอย่างติดตัว ได้รับการชดเชย 250,000 บาท/คน
8. สูญเสียอวัยวะอื่น ๆ นอกจากที่ระบุไว้ ตามข้อ 1. ถึง ข้อ 7 ซึ่งการสูญเสีย หรือการถูกทำลายลงแล้วนั้นจะกระทบต่อการดำรงชีวิตอย่างปกติสุขของผู้ประสบภัย เช่น การสูญเสีย ม้าม ปอด ตับ ไต หรือ ฟันแท้ทั้งซี่ตั้งแต่ 5 ซี่ขึ้นไป หรือ กระโหลกศีรษะถูกทำให้เสียหายเป็นเหตุให้ต้องใช้กระโหลกเทียม ได้รับการชดเชย 250,000 บาท/คน
9. กรณีสูญเสียนิ้วตั้งแต่ข้อนิ้วขึ้นไป ไม่ว่านิ้วเดียวหรือหลายนิ้ว ได้รับการชดเชย 200,000 บาท/คน
10. กรณีเสียชีวิต ได้รับการชดเชย 500,000 บาท/คน
11. กรณีเข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นคนไข้ใน ได้รับเงินชดเชยวันละ 200 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 วัน
12. ค่าเสียหายเบื้องต้น
12.1 กรณีผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อร่างกาย จะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามจำนวนที่จ่ายไปจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท/คน
12.2 กรณีที่ผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อร่างกายอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้ ได้แก่ ตาบอด หูหนวก เป็นใบหรือเสียความสามารถในการพูดหรือลิ้นขาด สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์ เสียแขนขามือเท้านิ้ว เสียอวัยวะอื่นใด จิตพิการอย่างติดตัวทุพพลภาพอย่างถาวร จะได้รับค่าชดเชยเบื้องต้น 35,000 บาท
12.3 กรณีผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อชีวิต ได้รับค่าปลงศพ 35,000 บาท/คน
12.4 กรณีที่ผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายตามข้อ
12.1 12.2 และ 12.3 จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นไม่เกิน 65,000 บาท ดังนั้นการไม่มีหรือไม่ทำ พ.ร.บ. อาจทำให้ผู้ขับขี่ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลฯ เองหากเกิดเหตุขึ้น
ขอบเขตความคุ้มครอง
- คุ้มครองผู้ขับขี่ หากผู้ขับขี่รถประสบอุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ประกันภัยจะจ่ายเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาล หรือกรณีเสียชีวิตจะมีการจ่ายเงินชดเชยตามวงเงินที่ระบุในกรมธรรม์
- คุ้มครองผู้โดยสาร ผู้โดยสารในรถที่เกิดอุบัติเหตุจะได้รับการคุ้มครองจากประกันภัยนี้เช่นเดียวกับผู้ขับขี่ ได้แก่ค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยในกรณีเสียชีวิต
- คุ้มครองบุคคลภายนอก คุ้มครองบุคคลภายนอกที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ไม่ว่าผู้ขับรถจะมีใบขับขี่หรือไม่ก็ตาม เงื่อนไขเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
ข้อดีของการทำ พ.ร.บ.
- ค่าเบี้ยฯ พ.ร.บ. มีอัตราเท่าเทียมกันของยานพาหนะแต่ละประเภท ไม่ว่าจะซื้อกับบริษัทประกันภัยไหนก็ตาม
- คุ้มครองผู้ขับขี่จากอุบัติเหตุขณะขับขี่ยานพาหนะทางบก
- คุ้มครองผู้โดยสารและบุคคลภายนอกเมื่อเกิดอุบัติเหตุกับยานพาหนะทางบก
- ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องค่ารักษาพยาบาล หรือการปลงศพ รวมทั้งค่าชดเชย ในกรณีมีผู้พิการหรือเสียชีวิตเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนน